ย้อนดูปี 2015 กับเรื่องราวในวงการกอล์ฟที่ต้องจดจำ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - คือธรรมเนียมที่ช่วงนี้ต้องเป็นเรื่องย้อนรอยเหตุการณ์ที่น่าจดจำของปี 2015 ก่อนที่จะถูกเก็บเข้าลิ้นชัก วงการกีฬากอล์ฟโลกก็เช่นเดียวกันล้วนมีปรากฎการณ์เกิดขึ้นเป็นประจำทุกฤดูกาล ซึ่งคราวนี้เราจะนำเสนอเป็นตัวเลขที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับสถิติต่างๆ
1.จอร์แดน สปีธ หนุ่มชาวอเมริกันวัย 22 ปี กับ ลิเดีย โค สาวน้อยชาวนิว ซีแลนด์ เชื้อสายเกาหลีวัย 18 ปี จบปีด้วยมือ 1 ของโลกทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงทำสถิตินั่งบัลลังก์ด้วยอายุน้อยสุดในโลกนับรวมทั้งชายและหญิง
2.เจสัน เดย์ ชาวออสเตรเลีย คว้าแชมป์ซีรีส์ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ถึง 2 รายการ แต่ไม่เพียงพอที่จะหยุด จอร์แดน สปีธ ก้าวไปชนะในบั้นปลายซิว “บิ๊ก โบนัส” เป็นเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 350 ล้านบาท)
3.โฮล-อิน-วัน ของ มิเกล อังเคล ฆิมิเนซ ชาวสเปน ระหว่างศึก “บีเอ็มดับเบิลยู พีจีเอ แชมเปียนชิป” ถือเป็นครั้งที่ 10 ใน ยูโรเปียน ทัวร์ แถมเป็นลูกที่ 3 ของปี ทำให้แซงหน้าสถิติของ โคลิน มอนต์โกเมอรี ชาวสกอตต์ เลข 3 ด้านดีไปแล้วไปดูด้านไม่ดีคือจำนวนครั้งที่ตีเกิน 80 ของ ไทเกอร์ วูดส์ บนเวที พีจีเอ ทัวร์ แย่สุดก็คือ 85
4.จำนวนครั้งที่ คามิโล วิเยกาส จำเป็นต้องตีเพื่อให้หลุดจากบังเกอร์ของศึกเมเจอร์ “ยูเอส โอเพน” ที่ แชมเบอร์ เบย์ โดยเกิดขึ้นที่หลุม 12
5.เบรนเดน เกรซ จากแอฟริกาใต้ ชนะสถิติ 5-0 ที่ศึก “เพรสซิเดนต์ส คัพ” ช่วยทีมนานาชาติแบบสุดกำลังแม้สุดท้ายจะแพ้ สหรัฐอเมริกา ก็ตาม
6.จำนวนสัปดาห์ที่ รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรหนุ่มคนดังชาวไอร์แลนด์เหนือ หายหน้าหายตาไปพักฟื้นหลังเจ็บเอ็นข้อเท้าฉีกที่เกิดจากการเล่นฟุตบอล
7.มี 7 คนที่คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นครั้งแรกในปี 2015
8.ตำแหน่งมือ 1 ของโลกฝ่ายชายเปลี่ยนมือไปมาถึง 8 ครั้งระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายนและตัวเลขชนะซิงเกิลแมตช์ของทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่มีในวันสุดท้ายของศึก “โซเลม คัพ”
9.สโตรกที่ แอนดี ซุลลิแวน ชนะคว้าแชมป์ “โปรตุกัล มาสเตอร์ส” ถือเป็นความห่างจากอันดับ 2 ที่มากที่สุดใน ยูโรเปียน ทัวร์ ปีนี้
10.ตัวเลขการจบท็อปเท็นของ แมทธิว ฟิตซ์แพทริค หนุ่มน้อยชาวอังกฤษ จบใน ยูโรเปียน ทัวร์ ปีแรกที่เข้ามาเล่นในฐานะรุคกี ถือว่ามากเกินหน้าเกินตาคนอื่น ส่วน 10 ที่ไม่ดีคือ มาร์ติน คายเมอร์ นำถึง 10 ช็อตในศึก “อาบู ดาบี เอชเอสบีซี กอล์ฟ แชมเปียนชิป” แต่สุดท้ายแชมป์ตกเป็นของ แกรี สตอล
11.มี 11 คนที่คว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ครั้งแรกในปี 2015
14.มี 14 คนที่คว้าแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ ครั้งแรกในปี 2015
15.จำนวนการจบท็อปเท็นมากที่สุดถึง 15 ครั้งจาก 25 อีเวนต์ของ จอร์แดน สปีธ ในปี 2015
17.ลิเดีย โค จบท็อปเท็นถึง 17 ครั้งจากทั้งหมด 24 ทัวร์นาเมนต์
21.อายุของ จอร์แดน สปีธ ที่ชนะ “เดอะ มาสเตอร์ส” กับ “ยูเอส โอเพน” รวมถึงอายุของ แมทธิว ฟิตซ์แพทริค ที่คว้าแชมป์ “บริติช มาสเตอร์ส”
22.ตัวเลขผู้ชนะระดับแชมป์เมเจอร์ที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ ไทเกอร์ วูดส์ ได้แชมป์เมเจอร์สุดท้าย ล่าสุดคือ เจสัน เดย์ ทำได้ในศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป”
28.จำนวนเบอร์ดีที่ จอร์แดน สปีธ ทำได้จากการที่คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตคือ “เดอะ มาสเตอร์ส”
44.จำนวนหลุมที่ชนะโดยคู่หูชาวอังกฤษ เมลิสซา รีด กับ ชาร์ลี ฮัลล์ ระหว่างลงแข่งขันศึก “โซเลม คัพ” อย่างไรก็ตามไม่อาจช่วยยุโรปเป็นแชมป์เพราะแพ้สหรัฐอเมริกาแต้มเดียว
46.การทำโฮล-อิน-วันของเวที ยูโรเปียน ทัวร์ ฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์
121.จำนวนหลุมรวมที่เล่นโดย รอรีย์ แม็คอิลรอย จากการคว้าแชมป์ “ดับเบิลยูจีซี-คาดิลแลค แมตช์ เพลย์”
287.อีเวนต์ที่ออกสตาร์ทในศึก พีจีเอ ทัวร์ ของ อเล็กซ์ เซจกา โปรหนุ่มชาวเยอรมันปัจจุบันวัย 45 ปี ก่อนที่จะได้แชมป์แรกคือ “เปอร์โต ริโก โอเพน” ซึ่งถือเป็นคนแรกที่ไม่ใช่อเมริกันที่ทำได้สำเร็จ
3,623.เอาจำนวนเงินทั้งหมดที่ จอร์แดน สปีธ ทำได้ในปี 2015 มาหารกับจำนวนช็อตทั้งหมดที่เล่นคิดเป็นเงินที่ทำได้ต่อ 1 ช็อตคือ 3,623 เหรียญสหรัฐอเมริกา (ประมาณ 216,805 บาท) โอ้แม่เจ้า!!…รวยไม่รู้เรื่อง
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
1.จอร์แดน สปีธ หนุ่มชาวอเมริกันวัย 22 ปี กับ ลิเดีย โค สาวน้อยชาวนิว ซีแลนด์ เชื้อสายเกาหลีวัย 18 ปี จบปีด้วยมือ 1 ของโลกทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงทำสถิตินั่งบัลลังก์ด้วยอายุน้อยสุดในโลกนับรวมทั้งชายและหญิง
2.เจสัน เดย์ ชาวออสเตรเลีย คว้าแชมป์ซีรีส์ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ถึง 2 รายการ แต่ไม่เพียงพอที่จะหยุด จอร์แดน สปีธ ก้าวไปชนะในบั้นปลายซิว “บิ๊ก โบนัส” เป็นเงิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 350 ล้านบาท)
3.โฮล-อิน-วัน ของ มิเกล อังเคล ฆิมิเนซ ชาวสเปน ระหว่างศึก “บีเอ็มดับเบิลยู พีจีเอ แชมเปียนชิป” ถือเป็นครั้งที่ 10 ใน ยูโรเปียน ทัวร์ แถมเป็นลูกที่ 3 ของปี ทำให้แซงหน้าสถิติของ โคลิน มอนต์โกเมอรี ชาวสกอตต์ เลข 3 ด้านดีไปแล้วไปดูด้านไม่ดีคือจำนวนครั้งที่ตีเกิน 80 ของ ไทเกอร์ วูดส์ บนเวที พีจีเอ ทัวร์ แย่สุดก็คือ 85
4.จำนวนครั้งที่ คามิโล วิเยกาส จำเป็นต้องตีเพื่อให้หลุดจากบังเกอร์ของศึกเมเจอร์ “ยูเอส โอเพน” ที่ แชมเบอร์ เบย์ โดยเกิดขึ้นที่หลุม 12
5.เบรนเดน เกรซ จากแอฟริกาใต้ ชนะสถิติ 5-0 ที่ศึก “เพรสซิเดนต์ส คัพ” ช่วยทีมนานาชาติแบบสุดกำลังแม้สุดท้ายจะแพ้ สหรัฐอเมริกา ก็ตาม
6.จำนวนสัปดาห์ที่ รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรหนุ่มคนดังชาวไอร์แลนด์เหนือ หายหน้าหายตาไปพักฟื้นหลังเจ็บเอ็นข้อเท้าฉีกที่เกิดจากการเล่นฟุตบอล
7.มี 7 คนที่คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นครั้งแรกในปี 2015
8.ตำแหน่งมือ 1 ของโลกฝ่ายชายเปลี่ยนมือไปมาถึง 8 ครั้งระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายนและตัวเลขชนะซิงเกิลแมตช์ของทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่มีในวันสุดท้ายของศึก “โซเลม คัพ”
9.สโตรกที่ แอนดี ซุลลิแวน ชนะคว้าแชมป์ “โปรตุกัล มาสเตอร์ส” ถือเป็นความห่างจากอันดับ 2 ที่มากที่สุดใน ยูโรเปียน ทัวร์ ปีนี้
10.ตัวเลขการจบท็อปเท็นของ แมทธิว ฟิตซ์แพทริค หนุ่มน้อยชาวอังกฤษ จบใน ยูโรเปียน ทัวร์ ปีแรกที่เข้ามาเล่นในฐานะรุคกี ถือว่ามากเกินหน้าเกินตาคนอื่น ส่วน 10 ที่ไม่ดีคือ มาร์ติน คายเมอร์ นำถึง 10 ช็อตในศึก “อาบู ดาบี เอชเอสบีซี กอล์ฟ แชมเปียนชิป” แต่สุดท้ายแชมป์ตกเป็นของ แกรี สตอล
11.มี 11 คนที่คว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ครั้งแรกในปี 2015
14.มี 14 คนที่คว้าแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ ครั้งแรกในปี 2015
15.จำนวนการจบท็อปเท็นมากที่สุดถึง 15 ครั้งจาก 25 อีเวนต์ของ จอร์แดน สปีธ ในปี 2015
17.ลิเดีย โค จบท็อปเท็นถึง 17 ครั้งจากทั้งหมด 24 ทัวร์นาเมนต์
21.อายุของ จอร์แดน สปีธ ที่ชนะ “เดอะ มาสเตอร์ส” กับ “ยูเอส โอเพน” รวมถึงอายุของ แมทธิว ฟิตซ์แพทริค ที่คว้าแชมป์ “บริติช มาสเตอร์ส”
22.ตัวเลขผู้ชนะระดับแชมป์เมเจอร์ที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ ไทเกอร์ วูดส์ ได้แชมป์เมเจอร์สุดท้าย ล่าสุดคือ เจสัน เดย์ ทำได้ในศึก “พีจีเอ แชมเปียนชิป”
28.จำนวนเบอร์ดีที่ จอร์แดน สปีธ ทำได้จากการที่คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตคือ “เดอะ มาสเตอร์ส”
44.จำนวนหลุมที่ชนะโดยคู่หูชาวอังกฤษ เมลิสซา รีด กับ ชาร์ลี ฮัลล์ ระหว่างลงแข่งขันศึก “โซเลม คัพ” อย่างไรก็ตามไม่อาจช่วยยุโรปเป็นแชมป์เพราะแพ้สหรัฐอเมริกาแต้มเดียว
46.การทำโฮล-อิน-วันของเวที ยูโรเปียน ทัวร์ ฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์
121.จำนวนหลุมรวมที่เล่นโดย รอรีย์ แม็คอิลรอย จากการคว้าแชมป์ “ดับเบิลยูจีซี-คาดิลแลค แมตช์ เพลย์”
287.อีเวนต์ที่ออกสตาร์ทในศึก พีจีเอ ทัวร์ ของ อเล็กซ์ เซจกา โปรหนุ่มชาวเยอรมันปัจจุบันวัย 45 ปี ก่อนที่จะได้แชมป์แรกคือ “เปอร์โต ริโก โอเพน” ซึ่งถือเป็นคนแรกที่ไม่ใช่อเมริกันที่ทำได้สำเร็จ
3,623.เอาจำนวนเงินทั้งหมดที่ จอร์แดน สปีธ ทำได้ในปี 2015 มาหารกับจำนวนช็อตทั้งหมดที่เล่นคิดเป็นเงินที่ทำได้ต่อ 1 ช็อตคือ 3,623 เหรียญสหรัฐอเมริกา (ประมาณ 216,805 บาท) โอ้แม่เจ้า!!…รวยไม่รู้เรื่อง
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก