5 เหตุผลทำไมเหล่าคนดังถึงชอบตีกอล์ฟ
5 เหตุผลทำไมเหล่าคนดังถึงชอบตีกอล์ฟ
กอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนดังทั่วโลก ดารา นักธุรกิจ นักการเมือง ต่างก็ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ แต่ทำไมกอล์ฟถึงดึงดูดเหล่าคนดังเหล่านี้ได้ มาดู 5 เหตุผลกันเลย
1. เป็นกีฬาที่ท้าทาย
กอล์ฟไม่ได้เป็นแค่การตีลูกให้ไกลที่สุด แต่ยังต้องอาศัยทักษะ ความแม่นยำ และกลยุทธ์ต่าง ๆ เหล่าคนดังหลายคนต่างชื่นชอบความท้าทายนี้ การได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะของตัวเองอยู่เสมอ
2. เป็นโอกาสในการสร้างเครือข่าย
สนามกอล์ฟเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพบปะผู้คน เหล่าคนดังมักใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในธุรกิจ การเมือง และวงการบันเทิง
3. เป็นการผ่อนคลาย
แม้จะเป็นกีฬาที่ท้าทาย แต่กอล์ฟก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เหล่าคนดังสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากงานและชีวิตส่วนตัว
4. เป็นกีฬาสำหรับทุกเพศทุกวัย
กอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย เหล่าคนดังสามารถเล่นกอล์ฟกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่แฟน ๆ
5. เป็นภาพลักษณ์ที่ดี
การเล่นกอล์ฟเป็นการแสดงภาพลักษณ์ที่ดี เหล่าคนดังมักถูกมองว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีรสนิยม และรักสุขภาพ
ตัวอย่างคนดังที่ชื่นชอบกอล์ฟ
ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย
สตีเฟน เคอร์รี (นักกีฬาบาสเก็ตบอล เจ้าของสถิติทำแต้มมากที่สุดตลอดกาล และยังได้แชมป์NBA 4 สมัยอีกด้วย)
กอล์ฟจึงไม่ใช่แค่กีฬา แต่เป็นกิจกรรมที่มอบประโยชน์มากมาย ทั้งความสนุกสนาน ความท้าทาย โอกาสในการสร้างเครือข่าย และภาพลักษณ์ที่ดี จึงไม่แปลกใจที่เหล่าคนดังถึงชื่นชอบกอล์ฟกันนั่นเอง
ค่าใช้จ่ายสำหรับการตีกอล์ฟ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น
อุปกรณ์กอล์ฟ:
ไม้กอล์ฟ: ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และวัสดุที่ใช้
ลูกกอล์ฟ: ราคาประมาณลูกละ 10-20 บาท
ถุงกอล์ฟ: ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000 บาท
รองเท้ากอล์ฟ: ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท
เสื้อผ้ากอล์ฟ: ราคาประมาณตัวละ 500-1,000 บาท
ค่าเรียนกอล์ฟ:
ค่าเรียนกับโปร: ราคาประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อชั่วโมง
คอร์สเรียนกอล์ฟ: ราคาประมาณ 10,000-30,000 บาทต่อคอร์ส
2. ค่าใช้จ่ายในการเล่น
ค่ากรีนฟี:
สนามกอล์ฟสาธารณะ: ราคาประมาณ 500-1,500 บาทต่อรอบ
สนามกอล์ฟเอกชน: ราคาประมาณ 1,500-7,000 บาทต่อรอบ
ค่าแคดดี้:
สนามกอล์ฟสาธารณะ: ราคาประมาณ 300-500 บาทต่อรอบ
สนามกอล์ฟเอกชน: ราคาประมาณ 500-1,000 บาทต่อรอบ
ค่ารถกอล์ฟ:
ราคาประมาณ 400-700 บาทต่อรอบ
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม:
ขึ้นอยู่กับร้านอาหารและเมนูที่สั่ง
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค่าธรรมเนียมสมาชิกสนามกอล์ฟ:
ขึ้นอยู่กับสนามกอล์ฟ
ค่าวางแผนการเดินทางและที่พัก:
ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของสนามกอล์ฟ
ตัวอย่าง
การเล่นกอล์ฟแบบประหยัด:
- เล่นที่สนามกอล์ฟสาธารณะ
- เช่าไม้กอล์ฟแทนการซื้อ
- พกอาหารและเครื่องดื่มไปเอง
- เดินเล่นแทนการใช้รถกอล์ฟ
- ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อรอบ
การเล่นกอล์ฟแบบหรูหรา:
- เล่นที่สนามกอล์ฟเอกชน
- ใช้ไม้กอล์ฟของตัวเอง
- ทานอาหารที่ร้านอาหารในสนาม
- ใช้รถกอล์ฟ
- ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อรอบ
ดังนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับการตีกอล์ฟจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานที่เล่น ประเภทของสนามกอล์ฟ ไลฟ์สไตล์ และการใช้จ่ายของแต่ละบุคคล