เวด...จำเป็นหรือไม่? คู่มือการใช้เวดสำหรับนักกอล์ฟ

เวด...จำเป็นหรือไม่? คู่มือการใช้เวดสำหรับนักกอล์ฟ

เวด (Wedge) ไม้กอล์ฟประเภทหนึ่ง หน้าไม้เอียงองศาสูง ออกแบบมาเพื่อการตีลูกกอล์ฟระยะสั้น โดยเฉพาะบริเวณรอบกรีน เวดมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีองศาหน้าไม้และการใช้งานที่แตกต่างกัน
 

นักกอล์ฟจำเป็นต้องใช้เวดหรือไม่?

• ขึ้นอยู่กับ ทักษะ ประสบการณ์ และสไตล์การเล่นของแต่ละบุคคล
• นักกอล์ฟมือใหม่: ฝึกฝนการตีลูกสั้นด้วยไม้กอล์ฟประเภทอื่นๆ เช่น พิชชิ่งเวดจ์ หรือเหล็ก 9 ก่อนได้
• นักกอล์ฟที่มีประสบการณ์: เวดจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการเล่นลูกสั้นรอบกรีน ช่วยให้ควบคุมทิศทางและระยะทางลูกได้แม่นยำ

ประเภทของเวด

• พิชชิ่งเวดจ์ (Pitching Wedge, PW): องศาหน้าไม้ประมาณ 45-48 องศา ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะ 60-80 หลา
• แก็ปเวดจ์ (Gap Wedge, GW): องศาหน้าไม้ประมาณ 50-52 องศา ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะ 50-60 หลา
• แซนด์เวดจ์ (Sand Wedge, SW): องศาหน้าไม้ประมาณ 54-56 องศา ใช้สำหรับตีลูกออกจากบังเกอร์ และตีลูกสั้นระยะ 40-50 หลา
• โลเบเวดจ์ (Lob Wedge, LW): องศาหน้าไม้ประมาณ 58-60 องศา ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะใกล้กรีน และตีลูกข้ามอุปสรรค
• ไฮโลเบเวดจ์ (High Lob Wedge, HLW): องศาหน้าไม้ประมาณ 60-64 องศา ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะใกล้กรีน และตีลูกข้ามอุปสรรคสูง

การเลือกเวด

• องศาหน้าไม้: เลือกให้เหมาะกับระยะทางที่ต้องการตี นักกอล์ฟมือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเวดที่มีองศาหน้าไม้ต่ำ เช่น พิชชิ่งเวดจ์ หรือแก็ปเวดจ์
• สไตล์การเล่น: เลือกเวดที่มีソールและบั๊นซ์ที่เหมาะกับสไตล์การเล่น นักกอล์ฟที่ชอบตีลูกโด่ง ควรเลือกเวดที่มีソールกว้าง นักกอล์ฟที่ชอบตีลูกควบคุมต่ำ ควรเลือกเวดที่มีบั๊นซ์น้อย
• ความถนัด: เลือกเวดที่มีน้ำหนักและความยาวเหมาะกับมือ ควรลองตีเวดรุ่นต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ

การฝึกใช้เวด

• ฝึกตีลูกสั้นด้วยระยะทางต่างๆ: เริ่มต้นด้วยระยะทางใกล้ๆ ค่อยๆ เพิ่มระยะทางออกไป
• ฝึกตีลูกสั้นในสถานการณ์ต่างๆ: ฝึกตีลูกสั้นจากพื้นราบ จากเนิน จากบังเกอร์ และจากรอบกรีน
• ฝึกควบคุมทิศทางลูก: ฝึกตีลูกสั้นไปยังเป้าหมายที่กำหนด
• ฝึกควบคุมระยะทางลูก: ฝึกตีลูกสั้นให้หยุดใกล้ธงมากที่สุด

 

เวด: อุปกรณ์สำคัญสำหรับควบคุมลูกสั้นรอบกรีน

เวด (Wedge) ไม้กอล์ฟหน้าไม้เอียงองศาสูง ออกแบบมาเพื่อการตีลูกกอล์ฟระยะสั้น โดยเฉพาะบริเวณรอบกรีน

ประเภทของเวด
พิชชิ่งเวดจ์ (Pitching Wedge, PW):
องศาหน้าไม้ประมาณ 45-48 องศา
ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะ 60-80 หลา
เหมาะสำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ หรือใช้ตีลูกสั้นรอบกรีนทั่วไป

แก็ปเวดจ์ (Gap Wedge, GW):
องศาหน้าไม้ประมาณ 50-52 องศา
ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะ 50-60 หลา
เติมเต็มช่องว่างระหว่างพิชชิ่งเวดจ์กับแซนด์เวดจ์
เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีประสบการณ์ ต้องการควบคุมระยะทางลูกสั้นให้แม่นยำขึ้น

แซนด์เวดจ์ (Sand Wedge, SW):
องศาหน้าไม้ประมาณ 54-56 องศา
ใช้สำหรับตีลูกออกจากบังเกอร์ และตีลูกสั้นระยะ 40-50 หลา
หน้าไม้มีบั๊นซ์กว้าง ช่วยให้ลอยตัวบนทรายได้ดี
เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการตีลูกออกจากบังเกอร์บ่อยๆ

โลเบเวดจ์ (Lob Wedge, LW):
องศาหน้าไม้ประมาณ 58-60 องศา
ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะใกล้กรีน และตีลูกข้ามอุปสรรค
หน้าไม้มีบั๊นซ์กว้าง และองศาหน้าไม้เปิดมาก ช่วยให้ลูกโด่งสูง หยุดเร็ว
เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีทักษะการตีลูกสั้นขั้นสูง ต้องการเล่นลูกข้ามบังเกอร์ หรืออุปสรรคใกล้กรีน

ไฮโลเบเวดจ์ (High Lob Wedge, HLW):
องศาหน้าไม้ประมาณ 60-64 องศา
ใช้สำหรับตีลูกสั้นระยะใกล้กรีน และตีลูกข้ามอุปสรรคสูง
หน้าไม้มีบั๊นซ์กว้าง องศาหน้าไม้เปิดมาก และソールหนา ช่วยให้ลอยตัวบนพื้นหยาบได้ดี
เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีทักษะการตีลูกสั้นขั้นสูง ต้องการเล่นลูกข้ามอุปสรรคสูง หรือพื้นหยาบใกล้กรีน

จำนวนเวดที่เหมาะสม
นักกอล์ฟมือใหม่: เริ่มต้นด้วยพิชชิ่งเวดจ์ หรือแก็ปเวดจ์ ก่อน
นักกอล์ฟที่มีประสบการณ์: 2-3 เวด เช่น พิชชิ่งเวดจ์ แซนด์เวดจ์ และโลเบเวดจ์
นักกอล์ฟมืออาชีพ: 4-5 เวด

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณา
องศาหน้าไม้: เลือกให้เหมาะกับระยะทางที่ต้องการตี นักกอล์ฟมือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเวดที่มีองศาหน้าไม้ต่ำ
สไตล์การเล่น: เลือกเวดที่มีソールและบั๊นซ์ที่เหมาะกับสไตล์การเล่น
ความถนัด: เลือกเวดที่มีน้ำหนักและความยาวเหมาะกับมือ

การฝึกฝน
ฝึกตีลูกสั้นด้วยระยะทางต่างๆ
ฝึกตีลูกสั้นในสถานการณ์ต่างๆ
ฝึกควบคุมทิศทางลูก
ฝึกควบคุมระยะทางลูก

เวด เปรียบเสมือนมีดผ่าตัด ช่วยให้นักกอล์ฟควบคุมลูกสั้นรอบกรีนได้แม่นยำ ตีลูกเข้าหลุมง่ายขึ้น