เช็คให้ดีก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นนาฬิกาปลุก
ไม่ว่านักกอล์ฟมือสมัครเล่นหรือระดับโปรก็ย่อมมีวิธีที่จะทำให้ตนเองแพ้ได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้ในสนามแข่ง หรือแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่ง อย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับโปรกอล์ฟระดับโลก
จิม ฟิวริก เคยถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันรายการ เดอะ บาร์เคลย์ส เฟดเอ็กซ์ คัพ เพราะเดินทางไปไม่ทันเล่นโปรแอม ส่งผลให้หมดสิทธิ์เข้าแข่งขันในอีก 3 รายการที่เหลือทันที เนื่องจากเขาใช้โทรศัพท์มือถือเป็นนาฬิกาปลุก แต่แบตเตอรี่ดันหมดในคืนนั้น
และเหตุการณ์ไปสายในการเล่นโปรแอมของฟิวริกก็เกิดขึ้นอีก ในรายการอาร์โนลด์ พาลเมอร์ เขาต้องเล่นต่อจากตัวสำรองที่ฝ่ายจัดการแข่งขันส่งให้ไปเล่นก่อน 2 หลุม
ตามกฎใหม่ที่พีจีเอได้ใช้ในปี 2004 ได้ระบุว่า นักกอล์ฟที่ปฏิเสธจะเล่นโปรแอม หรือเดินทางไปไม่ทันเล่นโปรแอม จะต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขันจริง กฎนี้ไม่เคยมีปัญหากับตัวนักกอล์ฟจนกระทั่งได้เกิดกับฟิวริก
เออร์นีย์ เอลส์ เคยกล่าวไว้ว่ากฎนี้ไม่สมควรต้องใช้ แต่น่าจะถูกปรับเป็นเงินหรือตัดคะแนนจะดีกว่าถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขัน เช่นเดียวกับ ฟิล มิคเคลสัน ที่ได้กล่าวว่า กฎนี้ไม่ได้ใช้กับนักกอล์ฟทุกคน แต่ใช้กับนักกอล์ฟไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเลือกให้เล่นโปรแอม
แต่ถึงฟิวริกจะยอมรับในกฎแต่โดยดี ในอีกแง่มุมหนึ่งกฎนี้ก็ถูกมองให้เป็นสองมาตรฐาน เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักกอล์ฟที่สอนเรื่องการตรงต่อเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเล่นกอล์ฟ นักกอล์ฟที่ไม่ตรงต่อเวลาอยู่เสมอมักจะเป็นผู้ที่ไม่น่าคบหาด้วย ยกเว้นว่านักกอล์ฟนั้นเป็นคนใหญ่คนโตที่ใครหลายคนต่างคอยพึ่งพาอยู่
โดย พิศณุ นิลกลัด