เคล็ดลับเด็ด! ดูแลไม้กอล์ฟคู่ใจ ให้คู่หูบนสนามอยู่กับเราไปนานๆ
เคล็ดลับเด็ด! ดูแลไม้กอล์ฟคู่ใจ ให้คู่หูบนสนามอยู่กับเราไปนานๆ
วิธีดูแลไม้กอล์ฟ
การดูแลรักษาไม้กอล์ฟอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ไม้กอล์ฟมีอายุการใช้งานยาวนาน ตีลูกได้แม่นยำ และรักษารูปลักษณ์ให้สวยงาม
วิธีดูแลไม้กอล์ฟเบื้องต้น:
วิธีดูแลไม้กอล์ฟเบื้องต้น:
ก่อนเล่น:
เช็ดไม้กอล์ฟให้สะอาด โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์
ตรวจสอบสภาพของไม้กอล์ฟ ว่ามีรอยแตก รอยบุบ หรือรอยขีดข่วนหรือไม่
หากพบรอยเสียหาย ควรนำไปซ่อมแซมโดยช่างผู้ชำนาญ
ทาครีมกันน้ำให้กับไม้กอล์ฟ โดยเฉพาะไม้กอล์ฟที่ทำจากไม้ เพื่อป้องกันไม้จากความชื้น
ตรวจสอบสภาพของไม้กอล์ฟ ว่ามีรอยแตก รอยบุบ หรือรอยขีดข่วนหรือไม่
หากพบรอยเสียหาย ควรนำไปซ่อมแซมโดยช่างผู้ชำนาญ
ทาครีมกันน้ำให้กับไม้กอล์ฟ โดยเฉพาะไม้กอล์ฟที่ทำจากไม้ เพื่อป้องกันไม้จากความชื้น
ระหว่างเล่น:
เก็บไม้กอล์ฟในกระเป๋าไม้กอล์ฟเสมอ
หลีกเลี่ยงการวางไม้กอล์ฟบนพื้นที่เปียกหรือร้อนจัด
ระวังอย่าให้ไม้กอล์ฟกระทบกับวัตถุแข็ง เช่น รถเข็น หรือกำแพง
cleaning ไม้กอล์ฟหลังจากตีลูกเสร็จ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์
หลีกเลี่ยงการวางไม้กอล์ฟบนพื้นที่เปียกหรือร้อนจัด
ระวังอย่าให้ไม้กอล์ฟกระทบกับวัตถุแข็ง เช่น รถเข็น หรือกำแพง
cleaning ไม้กอล์ฟหลังจากตีลูกเสร็จ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์
หลังเล่น:
เช็ดไม้กอล์ฟให้สะอาด โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์
ทาครีมกันน้ำให้กับไม้กอล์ฟ โดยเฉพาะไม้กอล์ฟที่ทำจากไม้ เพื่อป้องกันไม้จากความชื้น
เก็บไม้กอล์ฟในกระเป๋าไม้กอล์ฟที่แห้งและเย็น
ทาครีมกันน้ำให้กับไม้กอล์ฟ โดยเฉพาะไม้กอล์ฟที่ทำจากไม้ เพื่อป้องกันไม้จากความชื้น
เก็บไม้กอล์ฟในกระเป๋าไม้กอล์ฟที่แห้งและเย็น
การดูแลรักษาไม้กอล์ฟเพิ่มเติม:
เปลี่ยนกริพ: ควรเปลี่ยนกริพทุกๆ 6-12 เดือน หรือเมื่อกริพเริ่มสึกหรอ
ทำความสะอาดก้านไม้: ควรทำความสะอาดก้านไม้เป็นประจำ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดก้านไม้
ซ่อมแซมรอยแตก รอยบุบ หรือรอยขีดข่วน: ควรนำไม้กอล์ฟไปซ่อมแซมโดยช่างผู้ชำนาญ
เก็บไม้กอล์ฟในที่แห้งและเย็น: ควรเก็บไม้กอล์ฟในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ความร้อน และความชื้น
ทำความสะอาดก้านไม้: ควรทำความสะอาดก้านไม้เป็นประจำ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดก้านไม้
ซ่อมแซมรอยแตก รอยบุบ หรือรอยขีดข่วน: ควรนำไม้กอล์ฟไปซ่อมแซมโดยช่างผู้ชำนาญ
เก็บไม้กอล์ฟในที่แห้งและเย็น: ควรเก็บไม้กอล์ฟในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ความร้อน และความชื้น
ข้อควรระวัง:
- ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดกระจก เพราะอาจทำให้ไม้กอล์ฟเสียหาย
- ไม่ควรแช่ไม้กอล์ฟในน้ำนานๆ
- ไม่ควรตากไม้กอล์ฟในแสงแดดโดยตรง
- ไม่ควรกระแทกหรือทุบไม้กอล์ฟ
การดูแลรักษาไม้กอล์ฟอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ไม้กอล์ฟมีอายุการใช้งานยาวนาน ตีลูกได้แม่นยำ และรักษารูปลักษณ์ให้สวยงาม
การไม่ทำความสะอาดไม้กอล์ฟ อาจส่งผลเสียต่อไม้กอล์ฟของคุณ ดังนี้
1. ไม้กอล์ฟขึ้นสนิม:
- หัวไม้กอล์ฟ: หัวไม้กอล์ฟที่ทำจากโลหะ เช่น เหล็ก สแตนเลส ไทเทเนียม อาจขึ้นสนิมได้ หากไม่ทำความสะอาดคราบเหงื่อ คราบสกปรก และความชื้น
- แชฟต์: แชฟต์ไม้กอล์ฟที่ทำจากเหล็ก อาจขึ้นสนิมได้ หากไม่ทำความสะอาดคราบเหงื่อ คราบสกปรก และความชื้น
- สนิม จะทำให้ไม้กอล์ฟมีสภาพเสื่อมโทรม เกิดจุดด่าง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการตีลูก และอาจหักหรือแตกได้ง่าย
2. กริพเสื่อมสภาพ:
- กริพสกปรก: กริพที่สกปรก เต็มไปด้วยเหงื่อ คราบสกปรก และแบคทีเรีย ทำให้ลื่น จับไม่ถนัด ตีลูกยาก
- กริพเสื่อมสภาพ: กริพที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แข็ง ลื่น จับไม่ถนัด ตีลูกยาก
3. ไม้กอล์ฟมีกลิ่นเหม็น:
- เหงื่อ: คราบเหงื่อบนไม้กอล์ฟ หมักหมม เกิดกลิ่นเหม็นอับ
- คราบสกปรก: คราบสกปรกบนไม้กอล์ฟ หมักหมม เกิดกลิ่นเหม็น
- กลิ่นเหม็น ของไม้กอล์ฟ ไม่เพียงแต่รบกวนผู้เล่นและผู้อื่น แต่ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพ
4. ไม้กอล์ฟเสียรูปทรง:
- ความชื้น: ไม้กอล์ฟที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด จะสัมผัสกับความชื้น ทำให้ไม้กอล์ฟเสียรูปทรง บวม หรือโก่งไม้กอล์ฟที่เสียรูปทรง จะตีลูกได้ไม่ตรง ควบคุมทิศทางและระยะทางได้ยาก
ดังนั้น ควรทำความสะอาดไม้กอล์ฟทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อรักษาสภาพไม้กอล์ฟให้ใหม่อยู่เสมอ ใช้งานได้ยาวนาน