นักกอล์ฟหรือหุ่นยนต์

        คำถามที่อยู่ในใจนักกอล์ฟชาวไทยหลายคน ที่มักจะพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลาว่า วงการกอล์ฟในประเทศไทยจะพัฒนาไปอีกไกลแค่ไหน และคำตอบที่ได้กันมาก็คือ วงการกอล์ฟไทยนั้นสามารถพัฒนาไปได้ไกลแน่นอน ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยหลายประการ ทุกปีจะมีกอล์ฟมือใหม่หลายคนถือกำเนิดขึ้น เมื่อมีนักกอล์ฟมากขึ้นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟก็จะขายดีขึ้น รวมไปถึงธุรกิจสนามกอล์ฟ สนามไดร์ฟกอล์ฟก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นในการแข่งขัน เกิดคลื่นลูกใหม่หรือดาวจรัสแสง เข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันระดับโลก
 
        แต่ก็มีนักกอล์ฟอีกประเภทหนึ่งที่อยากจะขอร้องให้เลิกเล่นกอล์ฟดีกว่า นั่นก็คือนักกอล์ฟประเภทไม่คิดจะอ่านไลน์เอง วางไลน์เอง ไม่หยิบลูกกอล์ฟในหลุมเอง ชอบโทษแคดดี้เมื่อเกมการเล่นไม่เป็นดั่งใจ ทั้งที่จริงแล้วแคดดี้คือผู้ช่วยของนักกอล์ฟ ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรในเกม ไม่ได้มีหน้าที่เล่นกอล์ฟแทน ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินชะตากรรมในเกมนั้น การตัดสินใจทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตัวนักกอล์ฟเอง ไม่ใช่หุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่เดินตากแดดทำตามคำสั่งของแคดดี้

        เสน่ห์ของกีฬากอล์ฟที่มัดใจนักกอล์ฟทั่วโลกนั่นก็คือ การพัฒนาฝีมือด้วยตัวเอง การวัดฝีมือจากเพื่อนที่ร่วมก๊วนด้วย ศึกษาเทคนิคการเล่นจนได้ออกมาเป็นเทคนิคของตัวเอง เข้าถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของการเล่นกอล์ฟว่ามันมีมากกว่าความเป็นกีฬา ได้การออกกำลังกาย พบปะเพื่อนฝูงหรือได้ออกรอบกับเพื่อนร่วมก๊วนใหม่ๆ กีฬากอล์ฟยังสอนการมีมารยาท และสอนการสังเกตสภาพแวดล้อม การตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่มีอีกสิ่งที่นักกอล์ฟทุกท่านจะได้เรียนรู้กันทุกคนโดยอัตโนมัตินั่นคือ การฝึกกับความอดทน
 

        กอล์ฟคือกีฬาที่ต้องเล่นเองและต้องเล่นให้ครบทุกอย่าง การมีแคดดี้ถือว่าเป็นโบนัส มีคนมาคอยช่วยแบกถุงกอล์ฟให้เรา จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการแบกถุงกอล์ฟหนักๆตลอด 18 หลุม ไม่ใช่เป็นคนแบกภาระแทน หากนักกอล์ฟบางคนออกรอบมาเกิน 3 ปีแล้วทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น จ้างแคดดี้ทีละ 3 คนเวลาออกรอบ แบบนี้เลิกเล่นกอล์ฟจะดีกว่า เสียเวลาชีวิตเปล่าๆ