สวิงอย่างไรจึงไม่ปวดหลัง
สวิงอย่างไรจึงไม่ปวดหลัง
สวิงอย่างไรจึงไม่ปวดหลัง
การก๊อปปี้วงโปรนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอแนะนำมือใหม่อย่างเราว่า ให้ก๊อปปี้โปรหญิงก่อนจะดีกว่า เรื่องนี้น้าพิษณุ นิลกลัด แนะนำไว้ใน GOLF MATE 2005 สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นประเภท Weekend Golfer ให้ดูการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอทัวร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันของโปรผู้หญิงเพื่อพัฒนาฝีมือในการตีหัวไม้1 จะได้เห็นลำดับวงสวิง (Swing Sequence) ในจังหวะที่นุ่มนวล ราบเรียบ แช่มช้า สง่างาม แต่ระยะที่ออกมาอยู่ในช่วง 240-265 หลา เรียกว่าทั้งตรงทั้งไกล โดยไม่ต้องตีเฆี่ยนหรือตีเข่น
น้ายังแนะนำไว้อีกว่า เลือกดูได้ทุกคนเลย ยกเว้นโปร ลอร่า เดวีส์ เพราะเธอสวิงดุดันพอๆกับพี่เสือไทเกอร์ เลยครับ! การที่เราเริ่มต้นแบ็คสวิงที่ช้า นุ่มนวล เราจะคุมวงสวิงได้ตลอด หน้าไม้จะเข้าปะทะลูกตรง Sweet spot พอดี ได้ความรู้สึกเบาหวิว แต่ทั้งตรงทั้งไกล และไม่เกิดอาการปวดหลังด้วยครับ
สวิงอย่างไรจึงไม่ปวดหลัง
แต่ถ้าตะขิดตะขวงใจไม่อยากเลียนแบบโปรหญิง ผมก็มีโปรผู้ชายที่อยากแนะนะให้เลือกฝึกเลียนแบบวงสวิงของเขาไว้ เขาคือ สตีฟ สตริกเกอร์ นักกอล์ฟหมายเลข 4 ของโลก ผู้ซึ่ง เดนนิส ทิเชียนี โปรสอนกอล์ฟแห่งเชอโรกี คันทรีคลับ เมืองเมดิสัน วิสคอนซิน ได้วิเคราะห์วงสวิงของสตีฟ และกล่าวว่า “ผมนึกไม่ออกว่า จะมีวงสวิงของนักกอล์ฟระดับโลกคนไหน ที่จะง่ายต่อการเลียนแบบกว่านี้อีกแล้ว” (GOLF DIGEST, OCT 2010)
นักกอล์ฟฝีมือดีส่วนใหญ่จะ COCK ข้อมือมากในตอนแบ็คสวิง เพื่อที่จะได้พลังปะทะเพิ่มขึ้นจากการคลายข้อมือคืน (UNCOCK) ที่จังหวะอิมแพคเหมือนการหวดแส้ แต่สำหรับสตีฟ ข้อมือของเขาแทบจะไม่ COCK เลย นี่จึงทำให้วงสวิงของเขาสั้นกว่า ซึ่งมีผลทำให้เขาอยู่ในกลุ่ม 30 คนแรกของผู้ที่ไดรฟ แม่น แฟร์เวย์ มากที่สุดของทัวร์
สวิงอย่างไรจึงไม่ปวดหลัง
เดนนีส บอกว่า การลดการใช้ข้อมือทำให้เขาควบคุมวงสวิงได้ง่ายขึ้น เขาสร้างพลังจากการหมุนลำตัวและแขนทั้ง 2 ข้าง ทั้งในตอนแบ็คสวิงและตอนดาวน์สวิง ผ่านลูกโดยไม่ต้องกังวลกับการหักข้อมือ และคลายข้อมือในวินาทีสุดท้าย ซึ่งต้องชำนาญในการใช้ความแม่นจังหวะจึงพลาดง่าย
จงจำไว้ว่า การลากไม้ขึ้นแบ็คสวิงช้า ราบเรียบ นุ่มนวล วงสวิงก็จะงดงาม ควบคุมหน้าไม้ได้ แต่การลากไม้เร็ววงสวิงก็จะเร็วตาม ควบคุมได้ยาก ทำให้วงเพี้ยนตีผิดตีพลาด โอกาสปวดหลังเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ